ภาพยนตร์

วันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2555

The Great Magician ยอดพยัคฆ์นักมายากล

The Great Magician : ยอดพยัคฆ์นักมายากล




นำแสดงโดย เหลียง เฉาเหว่ย , หลิว ชิงหวิน , โจว ซวิ่น เรื่องราวของนักมายากลผู้เก่งกาจต้องการชิงตัวคนรักที่ตกไปอยู่ในเงื้อมมือของขุนพลผู้ชั่วร้าย(รึเปล่า?) ฉากหลังเป็นเมืองจีนยุคหลังราชวงศ์ชิง



หน้าหนังน่าดูมาก ดาราดีๆเพียบ โปรดักชั่นเยี่ยม แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาสุดแสนจะธรรมดาจืดชืด อย่าหวังว่าจะได้เจอการปะทะกันของนักมายากล การเฉลยทริกอันน่าตกใจ เนื้อเรื่องที่เข้มข้นชวนตะลึง สิ่งที่ว่ามานั้นไม่มีเลย เนื้อเรื่องอ่อนยวบยาบ หนังไม่มีความซีเรียส ยิ่งบวกเสียงพากษ์ของพันธมิตรเข้าไป รับรองว่ากลายเป็นตลกให้คนดู



ถ้าจะว่าไปหนังสมควรแล้วที่ลงแผ่นเลย ดูจบแล้วก็แล้วกัน ยังดีที่ดูจนจบ เฮ้อ... ถ้าเป็นแฟนคลับเฮียเหลียงคงหามาดูจนได้แหละครับ



ลืมบอกไป เรื่องนี้ เอ้อ ตงซิน กำกับ แต่ว่า  คุณลุง ฉีเคอะ มารับบทเป็นตัวประกอบด้วยนะครับ

สิ่งที่ดีที่สุดในหนังสำหรับแพนด้าก็คงเป็นหน้านางเอกนี่แหละ

2/5 คะแนน

วันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2555

PROJECT X ปาร์ตี้เกรียนแตก

PROJECT X : ปาร์ตี้เกรียนแบบสุดตีน




หมู่บ้านย่านคนมีเงินอันแสนสงบสุข ต้องมีอันปิดฉากลง เมื่อวัยรุ่นสุดเนิร์ด4คนได้ทำการประกาศศักดาฉลองวันเกิดแบบย้ายทองหล่อ ข้าวสาร มาไว้ในบ้าน!!!


หนังจากผู้สร้าง The Hang Over ว่าด้วยเรื่องของเด็กไฮสคูลต้องการจัดปาร์ตี้ฉลองวันเกิดและพ่อแม่ไม่อยู่บ้านพอดี ด้วยความที่เป็นเด็กแบบ "จืด"พวกเค้าจึงต้องการสร้างปาร์ตี้ให้เป็นที่จดจำและแจ้งเกิดให้ได้




เหมือนฟ้าดินเป็นใจ จากปาร์ตี้เล็กๆที่คิดไว้แต่แรกแค่20คน กลายเป็นใครก็ไม่รู้มากันแบบเต็ม2,000คน (แม่งยัดเข้าไปในบ้านได้ไง) จนกลายมาเป็นตำนานความฉิบหายวายป่วง วินาศสันตระโร แบบกู่ไม่กลับ ได้ข่าวๆแว่วๆว่า คานเย เวสท์ มางานนี้ด้วยอ่ะ !!!



หนังถ่ายทำแบบมุมมองบุคคลที่1 แต่ภาพดูไม่เวียนหัว ดนตรีแด็นซ์กันสุดติ่ง ดูเอาเพลินๆได้ ตลกดี วัยรุ่นอเมริกันมันเกรียนมาก ใครเดือดร้อนช่างแม่ง ดูเอาความวุ่นวายแล้วมองย้อนมาที่ตัวเรา ถ้าเป็นขนาดนี้กูหมดตัวติดคุกหัวโตแน่ๆ



แนะนำว่า ใครติดใจแนวHang Overก็ไปหามาดูซะ ไม่ผิดหวัง แต่อาจไม่สดเท่า


สรุป 3.5/5 คะแนน

The Raid Redemption

The Raid Redemption : ฉะ ! ทะลุตึกนรก



หนังแอ็กชั่นสุดมันส์จากอินโดนีเซีย ซึ่งกวาดรายได้มาแล้วทั่วโลก เรื่องราวของหน่วยสวาทซึ่งต้องการจับกุมผู้ร้ายระดับบิ๊กซึ่งใช้ตึก16ชั้นเป็นฐานกบดานมานานนับปี หลายหน่วยเคยบุกเข้าไปแล้วล้มเหลว แต่คราวนี้มีพระเอกบุกเข้าไปด้วย ผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร

ว่ากันตามหน้าหนังแพนด้าดูตัวอย่างแล้วก็พาลนึกถึงจา พนมของไทยเรา ฉากบู๊เตะ ต่อย ยิง แทง ฟัน กันจนสะใจ เลือดสาด หักคอ สาระพัดจะประเคนเข้ามาในสถานะการณ์และสภาพแวดล้อมของตึกที่ไม่มีทางออก หลังจากดูแล้วก็ต้องบอกว่า มันส์สะใจคอหนังบู๊ ต้องยอมรับว่าหนังอินโดเรื่องนี้สมกับราคาคุย ไม่แปลกใจถ้าหนังจะดัง ตลาดฮอลลีวูดต้องหันมามอง อารมณ์ในการรับชมคงคล้ายๆกับครั้งแรกที่เราได้ดูหนังจากประเทศอื่นนอกเหนือจาก สหรัฐ ฮ่องกง อินเดีย แล้วพบว่า ฉากบู๊แม่งโดนว่ะ คล้ายกับเรื่อง B13 องค์บาก ที่มีดาราที่มีความสามารถทางด้านคิวบู๊เป็นแม่เหล็ก




ข้อเสียคือ ตัวโกงมันง่อยไปหน่อย มีตัวเก่งๆแค่ตัวเดียว เสียดาย หนังเตะต่อยแบบนี้ยิ่งตัวโกงเก่งยิ่งมันส์ หรือไม่ก็ตัวเอกเทพไปเลยจะมันส์เป็นพิเศษ



ตัวโกงหน้าตาคล้ายๆตัวประกอบลูกกระจ๊อกบ้านเรา ตัวเล็กๆ มีปืนยิงได้แม่งไม่ยิง ชอบต่อย หรือว่าชอบโดนต่อยก็ไม่รู้



รับรองว่าถ้าได้ดูแล้วหลายๆคนคงอดเอาไปเทียบกับ โทนี่ จา หรือว่าจา พนม จากเรื่ององค์บากของเราไม่ได้ จากที่แพนด้าได้ดูแล้วบอกได้เลยว่า ไอ้ทิ้งจากองค์บากเรา เก่งว่าเยอะ แต่ละดอกพี่จาเราซาดิสม์กว่า พระเอกเรื่องนี้การต่อสู้คล้ายกับ จาพนม+ดอนนี่ เยน จากยิปมัน + บัญจสีลัต

สรุปเลย ดูสนุกดี ใช้ได้ ตุ๊บตับๆ ติดตามชมกันในโรงบ้านเราได้ประมาณกลางเดือนก.ค. 55

เอาไป 4 คะแนนกว่าๆ โทษฐานที่หนังดูสดมาก

วันอังคารที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2555

JACK AND JILL



Jack And Jill : ผู้หญิงหรือว่ากระเทยควาย

หนังตลกเบาสมองของพระเอกคนดังที่เรารู้จักดี Adam Sandlerที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ารับบทพี่น้องฝาแฝด ควบสองเลยทีเดียว แล้วคนดูก็พอจะเดาได้ว่าต้องเป็นหนังแนวไหน ... ก็เป็นแนวนั้นจริงๆแหละ



หนังเล่าถึง Jack Sadelstein (Adam) นักบริหารงานโฆษณามือดีอนาคตสดใส มีครอบครัวที่อบอุ่นภรรยาสาวแสนสวย (Katie Holmes)กับลูกอีกสองคน ชีวิตเหมือนจะดำเนินไปแบบปกติ จนเมื่อ วันขอบคุณพระเจ้ามาถึง Jill Sadelstein (Adam) พี่สาวฝาแฝด ผู้ซึ่งอาศัยอยู่ในบรองซ์กับแม่ได้เดินทางมาเยี่ยม ความฮา(รึเปล่า)จึงบังเกิดขึ้น

คงไม่ต้องบรรยายมากกับคาแรกเตอร์แฝดหญิงผู้พี่ Jill นอกจากตัวใหญ่เหมือนกระเทยควายแล้วยังหยาบคาย ไม่รู้กาละเทศะ เสียงดัง และขี้น้อยใจ แต่ไม่รู้ว่าคนดูจะตลกไปกับหนังด้วยรึเปล่า แพนด้ารู้สึกว่าหนังอดัม แซนเดอร์เรื่องนี้ปัญญาอ่อนน้อยลงกว่าเดิม(นั่นหมายความว่าดีขึ้น)และมุกสกปรกน้อยลง แต่ยังไม่ดีเท่าเรื่องก่อนหน้านี้ Grown Upอันนั้นดีกว่าเยอะ แต่ถ้าใครรักชอบพระเอกรายนี้ และรับกับบทหนังที่ไม่ต้องเดาได้ก็ไปดูเถอะ ถือว่าคลายเครียด


ถ้าพูดถึงสิ่งที่แพนด้าสนุกกับหนังเรื่องนี้ ก็คงต้องเป็นดารารับเชิญทั้งหลายที่ยกขบวนกันมาโผล่คนละนิดคนละหน่อย นอกจาก Rob Schneiderที่มาประจำทุกเรื่องอยู่แล้ว และ Al Pacinoที่ยอมมาเล่นบทเป็นตัวเอง(อัล ปาชิโน่)ดาราดังเจ้าอารมณ์ที่มาหลงรักหญิงร่างยักษ์อย่างJillทำให้แพนด้าฮาเป็นอย่างมาก แถมมีคนดังมาอีกเพียบเช่น นักบาสShaquille O'neal นักเทนนิส จอห์น แม็คแอนโรล (คนนี้ฮามาก) Bruce Jenner,Christie Brinkley และดาราดังอีกมากมายนับไม่หมด รวมไปถึงสุดอาร์ตตัวพ่ออย่าง Johnny Deppยังมาร่วมฮาด้วย



สรุปคือนอกจากดารารับเชิญเพียบแล้วก็ไม่มีอะไรให้ฮากันอีก

2 / 5 คะแนน

The Artist [recommend]

The Artist : เมื่อของเก่ายังขลัง และ พลังของศิลปะที่ทรงเสน่ห์


        คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณกันมากสำหรับหนังเรื่องนี้ เมื่อคว้ารางวัลออสการ์ไปครองถึง 5 ตัว และเป็นรางวัลภาพยนต์ยอดเยี่ยมเสียด้วย พ่วงด้วยรางวัล ผู้กำกับภาพยนตร์, นักแสดงนำชาย(ฌอง ดูฌาร์แดงค์), แต่งหน้า, ออกแบบเครื่องแต่งกาย และดนตรีประกอบ จากการเข้าชิง 10 สาขารางวัล  
        ใครที่กลัวว่าหนังออสการ์ไม่สนุกดูน่าเบื่อ ดูไม่รู้เรื่อง บอกไว้ก่อนเลยว่าเรื่องนี้ดูง่ายมาก ง่ายเสียจนคิดว่าเป็หนังน้ำเน่าธรรมดาๆด้วยซ้ำ หนังขาวดำเลียนแบบของเก่า ไม่มีเสียงพูด มันมีเสน่ห์ตรงไหนในยุคที่หนัง 3D ครองบ้านครองเมือง เทคโนโลยีล้ำจนเอาหุ่นยนต์มาแปลงร่างกันให้ดู เอาชาวนาวีมาขี่มังกรบินทะลุจอให้เราตะลึง ใช่ มันเป็นสมัยใหม่ มันเป็นศิลปะสมัยใหม่ที่ทำให้เรารู้สึกล้ำไปกับมัน แต่หนังขาวดำที่เหมือนดูชาลี แชปลิน เมื่อ 50 ปีที่แล้วมันให้ความรู้สึกที่ ขลัง การแสดงที่ลื่นไหลและเทคนิคในการนำเสนอหนังเงียบมันเป็นอะไรที่ดูแล้วต้องคาราวะกันเลยทีเดียว และที่สำคัญ เรื่องนี้ สนุก
      หนัง The Artist เล่าถึงเรื่องของดาราหนังเงียบในยุคก่อนที่หนังจะมีเสียงพูด จอร์จ วาเลนติน ผู้ขึ้นถึงจุดสูงสุดของวงการ ก่อนที่จะเปลี่ยนเข้าสู่ยุคของหนังมีเสียง และเขาไม่สามารถข้ามยุคมาได้ ทำให้เขาตกต่ำเนื่องจากไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ในขณะที่คลื่นลูกใหม่ เป๊ปปี้ มิลเลอร์ (Bérénice Bejo) ผู้เป็นแฟนคลับของจอร์จและใฝ่ฝันจะก้าวเข้ามาในฮอลลีวู๊ด ได้ยอมรับการเปลี่ยนแปลงและไขว่คว้าอนาคตไว้ ทำให้เธอโด่งดังในยุคของหนังเสียง สวนทางกับจอร์จ แต่ความห่วงใยและความรักของเป๊ปปี้ที่มีต่อจอร์จไม่เสื่อมคลาย จึงทำให้เธอตัดสินใจที่จะกอบกู้ และทำให้ จอร์จ วาเลนติน ยอมรับในการเปลี่ยนแปลงและกลับมาเป็นที่นิยมของผู้ชมอีกครั้งหนึ่ง
      แพนด้ากลับมองหนังเรื่องนี้ถึงความรักความศัทธาความชื่นชมของนางเอกที่มีต่อพระเอก ในขณะที่นางเอกยังเป็นแค่บ้านนอกเข้ากรุงโนเนม และชื่นชมในตัวจอร์จแบบสุดๆ ครั้งเดียวที่บังเอิญได้ถูกดาราที่ตัวเองชื่นชมจูบแก้ม ทำให้เธอไม่เคยลืมและยังคงรักจอร์จตลอด  ทำให้แพนด้าคิดว่า ในเวลาที่ซุปตาร์ที่โด่งดังทั้งหลายดังสุดๆ ถ้าเค้าไม่เคยลืมตัว แฟนๆก็จะไม่มีวันทิ้งเค้า อย่างน้อยๆเมื่อเวลาผ่านไปก็ยังคงเป็น ซุปตาร์ในใจแฟนๆตลอดกาล

สรุป ดูไปเหอะ แต่ถ้ามันทำใจลำบากมากก็ไม่ต้องดู แต่คุณอาจจะพลาดประสปการณ์ดีๆไป


4.5 / 5 คะแนน


วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Ghastly



Ghastly : ผีตัดเท้า , ผีตุ่มสยอง , เกรียนตุ่มผี

หนังเกาหลีที่ไม่ได้เข้าฉายในบ้านเราเนื่องจากความโหดสยอง (ตรงไหนว่ะ) และได้นักร้องดังวง T-ara ฮโยมิน (แพนด้าไม่รู้จัก) มาร่วมแสดง และ กลายเป็น หนึ่งในเหยื่อที่ตายแบบปัญญาอ่อนที่สุด

หนังเล่าเรื่องของตัวเอกที่ต้องมาอยู่ในบ้านพี่เขยที่โดนฆาตกรรมโดยเมียและทิ้งเด็กชายเอาไว้อย่างมีเงื่อนงำ แค่เนี้ยะ!!



สิ่งที่หนังนำเสนอคือการที่เด็กชายโดนผีสิงไล่ฆ่าคนแบบไร้เหตุผล เด็กตัวกะเปี๊ยกถือมีดไล่ฆ่าผู้ใหญ่ที่มีไม้กอล์ฟแท่งเบ้อเริ่ม หลังจากดูหนังเกาหลีดีๆมาหลายเรื่องก็ถึงเวลาที่จะมีหนังแย่ๆโผล่ออกมาสักที ผีไม่ได้มีความน่ากลัวเลย สยองตรงไหน ดูแล้วก็คิดได้ว่าไม่ควรจะดูเลย


ไม่สนุกและขัดใจตัวละครหลายตัว หนุ่มล่ำกำยำเสือกโดนเด็กฆ่า  ไม่เข้าใจพฤติกรรมหลายๆอย่าง งง แต่ก็ดูจนจบ

1.5 / 5 คะแนน

วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Memorise Of Murder


Memorise Of Murder : ฆาตกรที่มากับฝน

Memorise Of Murder เป็นหนังเกี่ยวกับ ฆาตกรรมต่อเนื่องในเมืองเล็กๆ ที่ทำให้ตำรวจต้องปวดหัวไปตามๆกัน เนื่องจากไม่สามารถที่จะสืบสาวหรือหาหลักฐานอะไรไม่ได้เลย เหยื่อคือผู้หญิงตั้งแต่เด็กยันคนแก่ และฆาตกรรายนี้จะลงมือเฉพาะคืนที่ฝนตกเท่านั้น



หนังเกาหลีเรื่องนี้ได้เค้าโครงมาจากเรื่องจริงของเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น เมื่อหนังเข้าฉายได้รับคำชมและเสียงวิจารณ์ดีมาก ถึงแม้ว่าหนังจะเดินเรื่องอย่างเรียบๆและบอกเล่าคนดูไปพร้อมๆกับการค่อยๆสืบคดีของตัวเอก แต่ด้วยเนื้อหาและการแสดงที่หนักแน่นทำให้เวลา สองชั่วโมงกว่าๆ เป็นความบันเทิงอย่างแท้จริง

ตัวหนังยังเสียดสีการทำงานที่ล้มเหลวของตำรวจเกาหลี การจับผู้ต้องสงสัยมาซ้อมเพื่อให้สารภาพ ตำรวจที่ชอบใช้กำลังและความรุนแรง เมื่อเงื่อนงำคดีมืดแปดด้าน ยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้าย



หนังดูสนุกพอใช้แม้ว่าจะเก่าไปหน่อย

3.5 / 5 คะแนน